ดาวหางเลนเนิร์ด C/2021 A1 (Leonard)
ศูนย์ดาวเคราะห์น้อยหรือเอ็มพีซี องค์กรที่รวบรวมข้อมูลการสังเกตวัตถุต่าง ๆ ในระบบสุริยะของสหพันธ์ดาราศาสตร์สากล ได้ตั้งชื่อวัตถุนี้ในบัญชีดาวหางว่า ซี/2021 เอ 1 (เลนเนิร์ด) - C/2021 A1 (Leonard) ตัวอักษรและตัวเลขในชื่ออย่างเป็นทางการนี้ แปลความหมายได้ว่าเป็นดาวหางไม่มีคาบหรือดาวหางคาบยาว ที่ค้นพบใน ค.ศ.2021 โดยเป็นดาวหางดวงแรกที่ค้นพบในครึ่งแรกของเดือนมกราคม ส่วนในวงเล็บเป็นชื่อสามัญที่เรียกตามชื่อสกุลของผู้ค้นพบ บ้างก็เรียกว่า ลีโอนาร์ด
เกรกอรี เจ. เลนเนิร์ด นักธรณีวิทยา นักวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์ และนักวิจัยชาวอเมริกัน ประจำอยู่ที่คณะวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์ มหาวิทยาลัยแอริโซนา เป็นผู้ค้นพบดาวหางดวงนี้จากภาพถ่ายผ่านกล้องโทรทรรศน์ขนาด 1.5 เมตร ในหอดูดาวเมาต์เลมมอน ตั้งอยู่บนภูเขาเลมมอน เทือกเขาซานตาแคทาลินา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองทูซอน รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา ขณะค้นพบ ดาวหางสว่างที่โชติมาตร 19
วงโคจรของดาวหาง
ดาวหางเลนเนิร์ดมีวงโคจรที่มีความเยื้องศูนย์กลางหรือความรีสูง หากเทียบกับดวงอาทิตย์คำนวณได้ว่ามีวงโคจรเป็นไฮเพอร์โบลา ไม่สามารถคำนวณคาบการโคจรได้ แต่หากเทียบกับศูนย์ระบบมวลของระบบสุริยะ ซึ่งคำนวณมวลของดาวเคราะห์ต่าง ๆ ร่วมด้วย พบว่าช่วงที่กำลังเคลื่อนเข้ามานี้ ดาวหางมีวงโคจรเป็นวงรี ก่อนหน้านี้จึงอาจเคยผ่านเข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์แล้วเมื่อราว 80,000-90,000 ปีก่อน แต่หลังจากผ่านใกล้ดวงอาทิตย์ครั้งนี้ แรงโน้มถ่วงรบกวนจากดาวเคราะห์และวัตถุต่าง ๆ ทำให้วงโคจรเปลี่ยนเป็นไฮเพอร์โบลา จึงไม่กลับมาอีก
ดาวหางเลนเนิร์ดมีระนาบวงโคจรทำมุมเอียงประมาณ 133° กับระนาบวงโคจรโลก วงโคจรที่มีความเอียงมากกว่า 90° แปลว่าเคลื่อนที่ในทิศทางตรงข้ามกับโลก หากมองลงมาจากเหนือระนาบวงโคจรโลก ดาวหางเคลื่อนที่ในทิศตามเข็มนาฬิกา ขณะที่โลกเคลื่อนที่ไปในทิศทวนเข็มนาฬิกา ที่จุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด ดาวหางอยู่ห่างดวงอาทิตย์ 0.615 หน่วยดาราศาสตร์ จึงใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าโลกและดาวศุกร์ ดาวหางจะเคลื่อนผ่านตำแหน่งนี้่ในวันที่ 3 มกราคม 2565 นับเป็นระยะเวลาหนึ่งปีพอดีหลังจากวันที่ค้นพบ
ลักษณะปรากฏของดาวหาง
ดาวหางปรากฏเป็นดวงฝ้ามัว มีใจกลางสว่าง แตกต่างจากดาวฤกษ์หรือดาวเคราะห์ที่เป็นจุด เราอาจสังเกตเห็นหางได้จาง ๆ ส่วนใหญ่หางจะปรากฏชัดเจนเฉพาะในภาพถ่ายที่เปิดรับแสงเป็นเวลานาน ดาวหางแต่ละดวงมีอัตราการระเหิดและปริมาณของอนุภาคที่กลายเป็นหางฝุ่นไม่เท่ากัน ทำให้มีลักษณะและความสว่างแตกต่างกัน
ดาวหางอยู่ไกลจากโลก ในคืนหนึ่งจึงเหมือนอยู่นิ่งเมื่อเทียบกับดาวฤกษ์ฉากหลัง แต่สามารถสังเกตตำแหน่งที่เปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อยเมื่อเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง แต่ละคืน ดาวหางเคลื่อนที่ไปบนฟ้าตามการหมุนของโลก จึงมีการขึ้น-ตกเช่นเดียวกับดาวต่าง ๆ บนท้องฟ้า
ตำแหน่งดาวหางในประเทศไทย
ประเทศไทยมีโอกาสสังเกตดาวหางดวงนี้ได้โดยแบ่งออกเป็นสองช่วง ช่วงแรกดาวหางอยู่บนท้องฟ้าด้านทิศตะวันออกในเวลาเช้ามืด หลังจากกลางเดือนธันวาคม ดาวหางจะย้ายไปอยู่บนท้องฟ้าด้านทิศตะวันตกในเวลาหัวค่ำ
ปลายเดือนพฤศจิกายน 2564 ดาวหางเลนเนิร์ดเคลื่อนที่อยู่ในซีกฟ้าเหนือ ดาวหางสว่างที่ราวโชติมาตร 7-8 ซึ่งพอจะสังเกตผ่านกล้องได้แล้ว แต่ยังไม่สว่างพอจะเห็นด้วยตาเปล่า
ต้นเดือนถึงกลางเดือนธันวาคม ดาวหางเลนเนิร์ดอยู่บนท้องฟ้าเวลาเช้ามืด เคลื่อนผ่านกลุ่มดาวผมเบเรนิซ หมาล่าเนื้อ คนเลี้ยงสัตว์ งู และเฮอร์คิวลีส ระหว่างนั้นคาดว่าความสว่างจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจากราวโชติมาตร 7 ไปที่โชติมาตร 4
ในช่วงเช้าของวันที่ 6 ธันวาคม 2546 ดาวหางปรากฏอยู่ในตำแหน่งของกลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์ (Boötes) เหนือขอบฟ้าทางทิศตะวันออกเล็กน้อยก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น สามารถสังเกตเห็นกลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์ได้จากการลากผ่านส่วนโค้งของ “ด้ามกระบวย” ที่เป็นส่วนหางของกลุ่มดาวหมีเล็ก (Ursa Major) ส่วนโค้งจะไปบรรจบที่ดาวฤกษ์สว่างที่มีชื่อว่า ดาวดวงแก้วและจะปรากฏอยู่ในกลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์ไปอีกสองสามวัน ก่อนที่จะเดินทางเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อย ๆ
ดาวหางนั้นไม่ได้มีแสงสว่างในตัวเอง แต่จะสะท้อนแสงจากดวงอาทิตย์ นอกจากนี้แสงอาทิตย์จะทำให้น้ำแข็งและแก๊สในดาวหางเกิดการระเหิดออก ถูกทิ้งไว้ตามวงโคจรของดาวหาง กลายเป็นหางที่พุ่งไปในอวกาศ และสะท้อนแสงอาทิตย์ทำให้ดาวหางสว่างเพิ่มมากขึ้น นั่นหมายความว่ายิ่งดาวหางเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากเท่าไหร่ ก็จะมีความสว่างมากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยิ่งดาวหางใกล้ดวงอาทิตย์ก็หมายความว่าจะสังเกตเห็นได้ยากขึ้นเช่นเดียวกัน เนื่องจากดวงอาทิตย์จะขึ้นเหนือขอบฟ้าตามหลังดาวหางในอีกไม่นาน ทำให้จะต้องสังเกตเห็นดาวหางผ่านแสงสนธยา ในช่วงวันที่ 6-8 ธันวาคม จึงเป็นช่วงที่จะสามารถสังเกตเห็นดาวหางได้ดีที่สุด แต่หลังนั้น ใช่ว่าจะสังเกตการดาวหางนี้ไม่ได้อีก แต่จะมีปัจจัยหลายประการที่ทำให้สังเกตยากขึ้น อย่างไรก็ดี วันสุดท้ายที่สามารถสังเกตเห็นได้คือวันที่ 3 มกราคม 2565 ก่อนที่เลนเนิร์ดจะโคจรออกจากตำแหน่ง perihelion และจากไปตลอดกาล
เทคนิคการดู-ถ่ายภาพดาวหางเบื้องต้น
1. การติดตามข่าวสารจากเว็บไซต์ ที่ได้จากการเฝ้าสังเกตการณ์ของนักดาราศาสตร์ ซึ่งจะมีหอดูดาวสังเกตการณ์ตลอดทั้งปีและคอยอัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับดาวหางที่อาจมีค่าความสว่างมากขึ้น จนสามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า เช่น https://theskylive.com ซึ่งมีข้อมูลดาวหางแบบ Real Time และค่าความสว่าง ตำแหน่งดาวหางล่วงหน้าอย่างละเอียด
2. การหาตำแหน่งดาวหางจากโปรแกรม Stellarium ในการใช้โปรแกรมบางครั้งจำเป็นต้องอัพเดทโปรแกรมเวอร์ชั่นล่าสุด และสามารถดาวน์โหลดข้อมูลดาวหางลงไว้ในโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์ เพื่อตรวจสอบตำแหน่งดาวหางในแต่ละวันได้
3. การวางแผนถ่ายภาพดาวหางในแต่ละวัน โดยสามารถใช้โปรแกรม Stellarium ในการแสดงทิศทางการเคลื่อนที่ของดาวหาง รวมทั้งการคาดการณ์ค่าความสว่างของดาวหางในแต่ละช่วงได้อีกด้วย นอกจากค่าความสว่างของดาวหางแล้ว จำเป็นต้องตรวจสอบดวงจันทร์ที่อาจจะทำให้มีแสงรบกวนได้
4. อุปกรณ์สำหรับถ่ายภาพดาวหางสว่าง สำหรับอุปกรณ์ในการถ่ายภาพดาวหางสว่างนั้น มีเพียง A.กล้องดิจิทัล B.ขาตั้งกล้องที่มั่นคง C.เลนส์ไวแสง แต่สำหรับดาวหางนีโอไวส์ครั้งนี้ แนะนำเลนส์ที่ช่วงทางยาวโฟกัส 24-70 mm. หรือ 70 – 200 mm. เนื่องจากขนาดปรากฏของดาวหางมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก
5. การหามุมรับภาพ เพื่อให้สามารถวางแผนเลือกใช้เลนส์และอุปกรณ์ที่เหมาะสมในการถ่ายภาพดาวหาง โดยสามารถใช้โปรแกรม Stellarium ในการหามุมรับภาพ แต่สำหรับคนที่อยากได้แบบใหญ่ ๆ ถ่ายเฉพาะตัวดาวหาง ก็สามารถใช้ทางยาวโฟกัสสูง แต่จำเป็นต้องถ่ายบนฐานตามดาวด้วย
6. การตั้งค่าถ่ายภาพดาวหาง เริ่มจากการใช้ค่ารูรับแสงกว้าง เช่น f/2.8 เพื่อให้กล้องไวแสงมากที่สุด, คำนวณค่าความเร็วชัตเตอร์จากสูตร 400/600 ให้สัมพันธ์กับช่วงทางยาวโฟกัสของเลนส์ที่เลือกใช้ ,ตั้งค่าความไวแสง ISO โดยอาจเริ่มจาก ISO 800 ขึ้นไป และปรับเพิ่มขึ้นตามสภาพแสงของท้องฟ้า
7. การมองหาดาวหางด้วยตาเปล่า ควรอยู่ในที่โล่งกว้าง มืดสนิท ไม่มีแสงเมืองรบกวน และเป็นวันที่สภาพอากาศเป็นใจ ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไม่มีแสงรบกวนจากดวงจันทร์ด้วยเช่นกัน
อภิธานศัพท์
โชติมาตร - magnitude มาตราบอกความส่องสว่างของวัตถุท้องฟ้า ตัวเลขยิ่งมีค่าน้อยยิ่งสว่าง ดาวจางที่สุดที่ตาเปล่าของคนสายตาปรกติจะมองเห็นได้ในเวลากลางคืนภายใต้ท้องฟ้ามืดสนิทมีโชติมาตรประมาณ 6.5 ตัวอย่างโชติมาตรของดาว เช่น ดาวเหนือมีโชติมาตร 2 ดาวศุกร์มีโชติมาตรประมาณ -4 ดวงจันทร์เพ็ญมีโชติมาตรประมาณ -12.7 ดวงอาทิตย์มีโชติมาตร -26.8
ดาวหางคาบยาว - long-period comet ดาวหางที่มีคาบการโคจรตั้งแต่ 200 ปีขึ้นไป
จุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด - perihelion ตำแหน่งบนวงโคจรของเทห์ฟ้าในระบบสุริยะ เช่น ดาวเคราะห์ ดาวหาง หรือ ดาวเทียม หรือยานอวกาศที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดในวงโคจร
หน่วยดาราศาสตร์ - astronomical unit หน่วยบอกระยะทาง เท่ากับระยะห่างเฉลี่ยระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ ซึ่งกำหนดให้มีค่าเท่ากับ 149,597,870.70 กิโลเมตร
แหล่งอ้างอิง
วรเชษฐ์ บุญปลอด. (2565). ดาวหางเลนเนิร์ด - C/2021 A1 (Leonard). สืบค้น 14 มกราคม 2565, จาก : http://thaiastro.nectec.or.th/skyevent/article/c2021a1/.
ดร. มติพล ตั้งมติธรรม (2564). จับตา #ดาวหางลีโอนาร์ด C/2021 A1 (Leonard). สืบค้น 14 มกราคม 2565, จาก : https://www.facebook.com/NARITpage/photos/a.148308931899396/4820106621386247?_rdc=1&_rdr.
จับตา! "ดาวหางลีโอนาร์ด" C/2021 A1 (Leonard) ดาวหางแห่งปี 2021. (2564). สืบค้น 14 มกราคม 2565, จาก : https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/975888.



